เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาดิฉันได้พาแม่ของดิฉันซึ่งป่วยด้วยโรคปวดหลังก่อนหน้านี้มีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับแม่ดิฉันประมาณปี 2543 แม่ดิฉันได้ประสบอุบัติเหตุเข้าที่สันหลัง เกิดจาการยกของหนักมาเกินกำลัง วันนั้นแม่ดิฉันจะถ่ายน้ำจากอ่างน้ำที่เลี้ยงปลาสวยงามเป็นอ่างที่มีขนาดใหญ่และเต็มไปด้วยน้ำ แม่ของดิฉันก็ได้ดันอ่างน้ำเพื่อให้อ่างตะแครงด้านข้างแต่ผลปรากฏว่า กระดูกสันหลังรวมถึงเส้นเอ็นต่างๆของแม่ดิฉันมันฉีกขาด และได้พยายามช่วยกันพาแม่ไปโรงพยาบาลที่ใกล้เคียงที่สุด คือโรงพยาบาลประจำอำเภอ และแม่ดิฉันก็ร้องเจ็บปวดมาก หมอให้ดูอาการอยู่ 2 วันและไม่ทำอะไรเลยนอกจากให้ยาแก้ปวดบรรเทาเท่านั้น ดิฉันกับน้องๆ เลยตัดสินใจพาแม่ไปโรงพยาบาลประจำจังหวัด แม่เลยเข้าไปพบแพทย์ แพทย์สั่งให้ทำการเอ็กซเรย์บริเวณกลางหลัง แพทย์อ่านฟิลม์เอ็กซเรย์แล้วปรากฎว่าเส้นเอ็นและหมอนรองกระดูกปิ้นออกมาด้านข้าง และหมอยังบอกว่าต้องพักฟื้นอีกนานหลายเดือน แต่แม่ดิฉันไม่เชื่อหมอว่าจะเดินไม่ได้ จนในที่สุดแม่ดิฉันเป็นอัมพฤษ อยู่ 4 เดือนเต็ม ขาข้างขวารีบไปหมดและแม่ต้องทำกายภาพตลอด รวมถึงการฝึกเดินจนหายดี วันอาทิตย์เป็นวันที่หมอนัดเอ็กซเรย์อีกครั่ง และพอก็ได้อ่านฟิลม์อีกครั้ง ผลปรากฏว่า แม่มีกระดูกพรุน 4 ข้อ บริเวณหลัง และเรามาทำความรู้จักโรคกระดูกพรุนกันดีกว่า
โรคกระดูกพรุน
โรคกระดูกพรุน คือ ภาวะจากกระดูกเกิดการสูญเสีย ทำให้โครงสร้างของกระดูกผิดรูปร่าง มีความเปาะบางและแตกหักง่าย โดยเฉพาะกระดูกสโพก กระดูกสันหลัง กระดูกข้อต่างๆ
ช่วงเวลาของการสร้างและสลายกระดูก มี 3 ช่วง
1.ช่วงของการสร้างมวลกระดูก
เริ่มตั้งแต่เกิดจนถึงอายุ 30 ปี เป็นการสร้างมวลกระดูกและไม่มีการสลายกระดูกนั้นเอง
2.ช่วงของการคงมวลกระดูก
เริ่มจาก 30 ปี จนถึง 45 ปี ไม่มีการสร้างมวลกระดูก การสลายกระดูก แต่จะมีการคงที่ของมวลกระดูกไว้เท่าเดิม(อาจแตกต่างจากการใช้ชีวิตของแต่ล่ะบุคคล)
3. ช่วงการสลายกระดูก
เริ่มตั้งแต่อายุ 45 ปีขึ้นไป จะไม่มีการสร้างมวลกระดูกแต่จะเป็นการสลายกระดูกมากกว่า สตรีที่หมดประจำเดือนจะมีการสลายกระดูดได้อย่างรวดเร็ว
อาหารสำหรับผู้ที่เป็นโรคกระดูกพรุน
1. บริโภคอาหารที่่มีแคลเซียมสูง เช่น ผักใบเขียว ได้แก่ บล็อกโคลี่ ผักกาดเขียว ผักคะน้า ผักกวางตุ้ง แขนงผัก ดอกกระหล่ำ ผักเหล่านี้ช่วยดูดซึมแคลเซียมได้ถึง 50%เลยที่เดียว , นม และ น้ำเต้าหู่ ช่วยดูดซึ่มแคลเซียมได้ถึง 30% , ถั่ว ได้แก่ ถั่วอัลมอนด์ ถั่งลาย และงาชนิดต่าง ช่วยดูดซึมแคลเซียมได้ถึง 20%
2.บริโภคอาหารที่มีฟอสฟอรัส เช่น นม เนื้อ ปลา เป็ด ไก่ ไข่ เนยแข็ง ตับ ข้าวกล้อง
3.บริโภคอาหารที่มีแมกนีเซียม ถั่วต่างๆ ธัญพีช และอาหารทะเล
4.บริโภคอาหารที่มีวิตามินดี เช่น น้ำมันตับปลา เนื้อปลาที่มีไขมัน ตับและไข่แดง
สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงมากที่สุดสำหรับผู้ที่เป็นโรคกระดูกพรุน
1. งดบริโภคอาหารที่มีโปรตีนจากเนื้อสัตว์
2.งดเครื่องดื่มที่มี คาแฟอีน กาแฟ น้ำชา สุรา
3.งดสูบบุหรี
4.ไม่นอนในที่ที่มีพื้นแข็ง ต้องมีที่นอนที่ไม่นิ่มเกินไปรองนอน
5. ไม่ควรงอตัวจนทำให้กระดูกผิดรูปมากกว่าเดิม ควรตั้งหลังให้ตรงตลอดเวลา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น